top of page

ประวัติความเป็นมา

วัดบ้านแพน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

   วัดบ้านแพน ตั้งอยู่ที่บ้านสามกอ เลขที่ ๑๒๕ หมู่ที่ ๑  ตำบลสามกอ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดจันทคูหาวาสน์" สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๒๐ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๒๕ บริเวณที่ตั้งวัดแต่เริ่มสร้างเป็นที่ราบลุ่ม อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย แขวงขุนเสนา ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๓  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการแบ่งขอบเขตพื้นที่การปกครองแขวงเสนา ออกเป็น แขวงเสนาใหญ่และแขวงเสนาน้อย  โดยพื้นที่อำเภอเสนาเป็นส่วนหนึ่งของแขวงเสนาใหญ่ 

 

   ครั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๘ ในสมัยรัชที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยเริ่มระยะแบ่งการปกครองเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมพระยาดำรงราชานุภาพ  เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย  ทรงดำริเห็นว่าแขวงเสนา  มณฑลกรุงเก่า  ถึงแม้จะแบ่งขอบเขตแล้วก็ตาม แต่ก็ยังปรากฏว่ามีพลเมืองมาก ท้องที่กว้าง จึงให้ผู้รักษากรุงในขณะนั้นจัดแบ่งเขตพื้นที่เสียใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงแบ่งพื้นที่แขวงเสนาใหญ่ ออกเป็น ๒ ตอน คือ ตอนเหนือ เรียกว่า อำเภอเสนาใหญ่ ต่อมาเป็นอำเภอผักไห่ และตอนใต้ เรียกว่าอำเภอเสนากลาง  ต่อมาเปลี่ยนเป็นอำเภอเสนา พื้นที่ตั้งวัด  เดิมอยู่ในเขตตำบลบ้านแพน วัดจึงชื่อวัดบ้านแพนตามชื่อของตำบล แต่เดิมหน้าวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีแม่น้ำแควน้อยไหลผ่าน ต่อมาลำน้ำตื่นเขินเลยกลายเป็นคลองสามกอไป ส่วนบริเวณหน้าวัดในปัจจุบันนี้เดิมเป็นลำคลองเล็ก ๆ ต่อมาถูกกระแสน้ำ กัดเซาะจนกลายมาเป็นแม่น้ำแควน้อย  

DSC08610.JPG

ปัจจุบันสิ่งที่เป็นหลักฐานหลงเหลือจากอดีตคือ

๑. พระประธานในอุโบสถ  ที่ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อเพชร” เป็นพระพุทธรูปสลักจากหินศิลาแรง  ศิลปะสมัยอู่ทอง

๒. มณฑปประดิษฐานฝ่าพระพุทธบาทจำลอง  ปัจจุบันยังคงมีซากปรักหักพังอยู่

๓. หอระฆัง ปัจจุบันยังคงมีซากปรักหักพังอยู่

 

เมื่อสมัยพระครูรัตนาภิรมย์ (อยู่ ติสฺส) เป็นเจ้าอาวาส  ศาลาการเปรียญเก่าทรุดโทรมมาก ท่านจึงได้สร้างขึ้นใหม่และได้ย้ายไปไว้หลังวัด 

เพราะท่านมองเห็นกาลไกลว่าลำน้ำหน้าวัดทางทิศตะวันตกตื้นเขินขึ้นทุกวัดต่อไปคงจะลำบากจึงได้ทำการถากถางก่อไผ่หลังวันให้เตียน

แล้วกลับหน้าวัดไปอยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งปรากฏอยู่จนทุกวันนี้

ในสมัยเจ้าอธิการจ้อย  จนฺทโชติ เป็นเจ้าอาวาส  สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ  ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  

ทรงเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมืองทางเหนือ ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับแรมที่วัดบ้านแพนแห่งนี้ เป็นเวลา ๑ ราตรี แต่จะเป็น     พ.ศ. ใดนั้น ไม่มีหลักฐานปรากฏต่อมาในสมัยพระครูรัตนาภิรม (อยู่ ติสฺส) เป็นเจ้าอาวาส  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่  ๖  ทรงเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมืองทางเหนือ ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับแรมที่วัดบ้านแพนแห่งนี้เป็นเวลา ๑ ราตรี เช่นกันแต่จะเป็น พ.ศ. ใดนั้น ไม่มีหลักฐานปรากฏ พ.ศ. ๒๔๕๗ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยา วชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจการคณะสงฆ์ มณฑลกรุงเก่า ก็ทรงเสด็จมาประทับแรมที่ วัดบ้านแพนแห่งนี้ เป็นเวลา  ๑  ราตรี  

    วัดบ้านแพน  มีเนื้อที่ตั้งวัด  ๓๔  ไร่   ๑  งาน  ๖๗  ตารางวา  โฉนดที่ดินเลขที่  ๑๕๓๐๐  มีมีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๑๔  แปลง เนื้อที่ ๑๕๑ ไร่ ๒ งาน ๒๑ ตารางวา มีอาณาเขต ดังนี้

        ทิศเหนือ            ติดต่อกับทางสาธารณะ

        ทิศใต้                 ติดต่อกับคลองสามกอ

        ทิศตะวันออก     ติดต่อกับแม่น้ำแควน้อย

        ทิศตะวันตก       ติดต่อกับแม่น้ำปลายนาเก่า (คลองสามกอ)

    มูลเหตุของการตั้งชื่อวัดนั้น ตำนานของท้องถิ่นกล่าวไว้ว่า แต่เดิมมีสำเภาใหญ่ล่องมาทางคลองรางจระเข้ โดยหารู้ไม่ว่า บริเวณปากคลองนี้มีกระแสน้ำวนเชี่ยวกรากสำเภาจึงเสียการทรงตัวกระแทกเข้าริมตลิ่งแล้วบ่ายหัวไปอีกทางสำเภากระทบกระทั่งทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างไร้ทิศทางจนเรือล่วงเข้าสู่ท้ายคลองจึงจมลงอย่างสงบนิ่งมีเพียงเสากระโดงโผล่ขึ้นเหนือน้ำส่วนข้าวของและสัมภาระที่ติดมากับเรือต่างลอยกระจายอยู่ทั่วไป

    ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างเข้าช่วยตามกำลังส่วนหนึ่งลากเอาเสื่อลำแพนที่ลอยไปติดเนินดินขึ้นตากแดดจนแห้งภายหลังจึงเรียกชื่อแห่งนั้นว่า “บ้านแพน”ส่วนกกที่ลอยไปติดใกล้โคกใหญ่ชาวบ้านได้ช่วยกันนำตากบนโคก จึงเรียกบริเวณนั้นว่า “โคกเสื่อ”  

    ส่วนพ่อค้าสำเภาหลังจากเรืออับปางก็ตัดสินใจสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นจุดเตือนใจ ในสัจธรรมของชีวิตและนำเสากระโดงเรือตั้งไว้เป็นสัญลักษณ์   แล้วขนานนามวัดว่า “วัดเสากระโดงทอง”  

    บริเวณที่นำเสื่อลำแพนไปตากนั้น เป็นพื้นที่ในการครอบครองของวัดจันทรคูหาวาส  ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาต่อมาชาวบ้านจึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น“วัดบ้านแพน”ส่วนเนินดินนั้นเมื่อสายน้ำเปลี่ยนทิศทางผ่านมายังจุดนั้นจึงกลายเป็นชุมทางเรือและการค้าขาย ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเสนา

DSC08788.JPG

ภารกิจงานด้านต่าง ๆ ของวัดบ้านแพน

ด้านการศึกษา การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมของวัดบ้านแพนนั้น เริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ ในสมัยที่พระครูรัตนาภิรมย์ (อยู่ ติสฺส) เป็นเจ้าอาวาส โดยในครั้งนั้นใช้ศาลาวัดเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอน ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๕๐๔ พระครูปริยัติคูณูปการ (วาสน์ ธมฺมโชโต) เจ้าอาวาสวัดบ้านแพนในขณะนั้น ได้ดำเนินการก่อสร้างหอเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นเป็นครั้งแรกในวัด โดยใช้ชื่อว่า “หอปริยัติคุณูปการณ์” หลังจากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้จัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ตั้งแต่นักธรรมชั้นตรี จนถึงนักธรรมชั้นเอก โดยมีพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดเป็นอาจารย์ผู้สอน พ.ศ. ๒๔๙๔ คณะสงฆ์อำเภอเสนา โดย พระครูเขมเทพาจารย์ เจ้าคณะอำเภอเสนา ในขณะนั้น ได้ย้ายสนามสอบธรรมสนามหลวง จากวัดโคกทอง อำเภอผักไห่ มาใช้สถานที่ของวัดบ้านแพน เปิดเป็นสนามสอบธรรมสนามหลวง ประจำอำเภอเสนา จนถึงปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๔๕ ภายหลังจากพระครูสุวรรณศีลาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเสนา ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ขนาดกว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร ขึ้น จำนวน ๑ หลัง เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนและสถานที่สอบธรรมสนามหลวงของพระภิกษุสงฆ์ในเขตปกครอง เนื่องจากแต่เดิมการสอบธรรมสนามหลวง ต้องใช้สถานที่ของโรงเรียนวัดบ้านแพน “ศรีรัตนานุกูล” เป็นสถานที่สอบ ยังไม่มีสถานที่สอบเป็นของตัวเอง ประกอบกับจำนวนนักเรียนทั้งพระภิกษุสามเณรและนักเรียน ธรรมศึกษามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี สถานที่ของโรงเรียนวัดบ้านแพนก็ไม่สามารถจะรองรับ ทั้งพระภิกษุสามเณรและนักเรียนธรรมศึกษาได้อย่างเพียงพอ จึงจำเป็นจะต้องก่อสร้างสถานที่แห่งใหม่ขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนพระภิกษุสงฆ์สามเณรและนักเรียนที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี นอกจากโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดบ้านแพนจะใช้เป็นสถานที่สอบธรรมสนามหลวงของอำเภอเสนาแล้ว ในปัจจุบันวัดบ้านแพนยังได้เปิดศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยใช้โรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอน พ.ศ. ๒๕๕๓ เนื่องจากแม่กองธรรมสนามหลวง มีนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วน ในการส่งเสริมสนับสนุนและขับเคลื่อนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมในรูปแบบศูนย์การเรียน พระครูสุวรรณศีลาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน และเจ้าคณะอำเภอเสนา จึงได้สนองนโยบายดังกล่าว ดำเนินการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ในรูปแบบศูนย์การเรียนขึ้น โดยให้นักเรียนนักธรรมชั้นตรี ชั้นโท และชั้นเอก ของวัดในเขตปกครอง ๓๓ วัด มาเรียนรวมกัน ณ วัดบ้านแพน ตำบลสามกอ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๓ โดยได้รับความเมตตาจากพระราชสุตาลังการ รองเจ้าคณะภาค ๒ (ปัจจุบัน พระธรรมโพธิมงคล เจ้าคณะภาค ๒) เป็นประธานในพิธี ในปีแรกมีนักเรียน นักธรรมชั้นตรี จำนวน ๑๔๕ รูป นักธรรมชั้นโท จำนวน ๔๐ รูป และนักธรรม ชั้นเอก จำนวน ๒๓ รูป มีครูสอนรวมทั้งสิ้น ๒๐ รูป และได้ดำเนินการเปิดทำการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๖๓ เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประกาศ ลงวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ให้ วัดบ้านแพน ตำบลสามกอ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น สำนักศาสนศึกษา โดยใช้ชื่อว่า “สำนักศาสนศึกษาประจำอำเภอเสนา (วัดบ้านแพน)”

ด้านเผยแผ่ การเผยแผ่ของวัดบ้านแพนนั้น ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ ตั้งแต่เจ้าอาวาสรูปแรกจนถึงรูปปัจจุบัน โดยในปัจจุบันวัดบ้านแพนจัดให้อุบาสกและอุบาสิการักษาอุโบสถศีลทุกวันสำคัญในพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันอัฏฐมีบูชา หรือในวันธรรมสวนะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและในช่วงออกพรรษา โดยจัดให้มีการทำบุญ ตักบาตรและถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์สามเณรบนศาลาการเปรียญ มีการแสดง พระธรรมเทศนา ในภาคเช้า ภาคสาย ภาคบ่าย และภาคค่ำ มีการทำวัตรสวดมนต์เจริญจิตต-ภาวนา เป็นต้น ภายหลังจากมหาเถรสมาคมมีประกาศให้วัดบ้านแพน เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แห่งที่ ๑๑ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๐ วัดบ้านแพนได้ดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนของการเผยแผ่ให้นอกเหนือจากที่เคยดำเนินการอยู่ คือ ได้ดำเนินการจัดโครงการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ต่อเนื่องกันเป็นประจำทุกปี โดยกราบอาราธนาพระเถระผู้มีความรู้ ด้านพระกรรมฐาน มาเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนา นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการบรรพชาอุปสมบทหมู่ เฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ของทุกปี โครงการเข้าค่ายพุทธทายาทโรงเรียนวัดบ้านแพน “ศรีรัตนานุกูล” และจัดกิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์เย็นในวันธรรมสวนะ เพื่อขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในดำริ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช โดยปัจจุบันได้ร่วมกับสถาบันพลังจิตตานุภาพ เปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ผู้สนใจ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ด้านสาธารณูปการ การสาธารณูปการของวัดบ้านแพนนั้น คงมีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต แต่เท่าที่มี การบันทึกไว้ วัดบ้านแพน ได้ดำเนินการทั้งในส่วนของงานการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ ดังนี้ สมัยพระครูรัตนาภิรมย์ (อยู่ ติสฺส) เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๔๕๓ ดำเนินการบูรณปฎิสังขรณ์อุโบสถ พ.ศ ๒๔๖๓ ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญด้วยไม้ทั้งหลัง ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๙ เมตร พ.ศ. ๒๔๗๙ ดำเนินการก่อสร้างหอสวดมนต์ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๔ เมตร (หอรัตนาภิรมย์) สมัยพระครูปริยัติคุณูปการ (วาสน์ ธมฺมโชโต) เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๔๘๐ สร้างสะพานคอนกรีตจากโบสถ์ลงท่าน้ำ ยาว ๒ เส้นเศษ พ.ศ. ๒๔๘๓ สร้างส้วมด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว ๘ วา ๒ ศอก กว้าง ๑๑ ศอก จำนวน ๑ หลัง พ.ศ. ๒๔๙๔ สร้างกุฎีสงฆ์เป็นตึกเทคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว ๘ วา ๒ ศอก กว้าง ๑๑ ศอก จำนวน ๑ หลัง พ.ศ. ๒๔๙๖ สร้างถังน้ำสี่เหลี่ยมกว้าง ๖ ศอก สูง ๕ ศอก เทคอนกรีต สร้างส้วมซึมคอนกรีตสำหรับพระข้างถังน้ำและกุฏิสร้างใหม่ กับได้ปฏิสังขรณ์หอสวดมนต์ต่อจากพระครูรัตนาภิรมย์ซึ่งทำ ค้างไว้ โดยทำบานประตูเหล็กและหน้าต่างเปิดโดยเรียบร้อย พ.ศ. ๒๔๙๗ สร้างโรงไฟฟ้าประจำวัด ตัวอาคารเทคอนกรีตเสริมเหล็ก และจัดซื้อเครื่องทำไฟขนาด ๑๖ แรงม้า ๑ เครื่อง แรงไฟ ๒๒๐ โวลด์ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ๗ กิโลวัตร พ.ศ. ๒๔๙๘ เริ่มปฏิสังขรณ์อุโบสถ ซึ่งชำรุดทรุดโทรมมาก โดยขยายตัวโบสถ์ออก ขนาดกว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๑.๕๐ เมตร หน้าบันอุโบสถทั้งสองข้างเป็นรูปนกยูงรำแพนในลายกนก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวัดบ้านแพน สร้างแล้วเสร็จ พ.ศ. ๒๕๑๓ ใช้เวลาสร้างกว่า ๑๕ ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ สร้างสะพานคอนกรีตจากกุฏิลงไปอุโบสถ มุงหลังคาแล้วเสร็จ พ.ศ. ๒๕๐๘ พ.ศ. ๒๕๐๔ ดำเนินการก่อสร้าง “หอปริยัติคุณูปการ” สำหรับใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร สร้างเรียงจากหอสวดมนต์ “รัตนาภิรมย์” มาทางด้านใต้ ระหว่างกุฎิสงฆ์ทั้งสองด้าน สร้างแล้วเสร็จ พ.ศ. ๒๕๑๘ พ.ศ. ๒๕๐๖ สร้างที่เก็บศพด้วยคอนกรีต ๑ หลัง บรรจุศพได้ประมาณ ๔๐ศพ พ.ศ. ๒๕๐๗ สร้างรูปหล่อจำลองพระพุทธสิหิงค์ และรูปหล่อจำลอง หลวงปู่จ้อย หลวงปู่อยู่ และหลวงปู่วาส อดีตเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๕๑๔ ดำเนินการก่อสร้างฌาปนสถาน ทางด้านเหนือของศาลาการเปรียญ พ.ศ. ๒๕๑๖ดำเนินการจัดสร้างพระประธาน “พระพิชิตมารโมลีโลก” เพื่อประดิษฐานภายในอุโบสถที่บูรณะขึ้นใหม่ ขนาดความสูง ๔.๒๕ เมตร หน้าตักกว้าง ๒.๙๐ เมตร หล่อด้วยทองเหลืองตลอดทั้งองค์ พ.ศ. ๒๕๒๑ – ๒๕๒๔ ก่อสร้างกุฏิทรงไทยด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณหน้าหอ รัตนาภิรมย์ จำนวน ๒ หลัง พ.ศ. ๒๕๒๕ดำเนินการก่อสร้างมณฑปประดิษฐานรูปจำลองอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน ลักษณะเป็นอาคารตรีมุข ขนาดกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๑๕ เมตร สมัยพระมงคลวุฒาจารย์ (ทองพูน ฐิตสีโล) เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๕๒๘ดำเนินการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน ๖ หลัง พ.ศ. ๒๕๓๓ดำเนินการก่อสร้างศาลาบำเพ็ญกุศล (ศาลาธรรมสังเวช) ขนาดกว้าง ๑๔.๖๐ เมตร ยาว ๒๐.๘๐ เมตร ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นปูหินอ่อนตลอดทั้งหลัง พ.ศ. ๒๕๓๔ดำเนินการก่อสร้างศาลาบำเพ็ญกุศล (ศาลาเมตตาธรรม) ขนาดกว้าง ๑๔.๕๐ เมตร ยาว ๒๕.๓๐ เมตร ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นหินขัดตลอดทั้งหลัง พ.ศ. ๒๕๔๐ ดำเนินการเทพื้นถนนคอนกรีตจากปากทางเข้าวัดบ้านแพน ถึงซุ้มประตูทางเข้าวัด ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๗๔๕ เมตร พ.ศ. ๒๕๔๒ เติมศาลาการเปรียญด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร พ.ศ. ๒๕๔๓ สร้างกำแพงรอบวัดด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๒ เมตร ยาว ๕๐๐ เมตร สูง ๒ เมตร หนา ๑๐ เซนติเมตร พ.ศ. ๒๕๔๔ สร้างป้ายชื่อวัดบ้านแพนด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นป้ายเป็น หินแกรนิต สูง ๑.๕ เมตร กว้าง ๔ เมตร พ.ศ. ๒๕๔๕ ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย ๒ ชั้น ขนาดกว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๗๓ เมตร พ.ศ. ๒๕๔๖ ดำเนินการก่อสร้างห้องน้ำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๕.๗๐ เมตร ยาว ๑๖ เมตร จำนวน ๑๘ ห้อง พ.ศ. ๒๕๔๗ดำเนินการต่อเติมโรงเรียนพระปริยัติธรรม กว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๐ดำเนินการก่อสร้างซุ้มประตูวัดบ้านแพน ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๕ เมตร สูง ๖ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๐ดำเนินการบูรณอุโบสถวัดบ้านแพน โดยเทพื้นฝ้าหลังคาด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลัง เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาเป็นกระเบื้องเคลือบ (สุโขทัย) พร้อมทั้งเปลี่ยนกระจกสีที่ประดับหน้าบัน ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ซุ้มประตู หน้าต่าง และทาสีอุโบสถใหม่ทั้ง พ.ศ. ๒๕๕๐ดำเนินการบูรณศาลาการเปรียญ โดยเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคา เปลี่ยนกระจกสีที่ประดับหน้าบัน ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ วาดภาพจิตรกรรมฝาพนัง และทาสี พ.ศ. ๒๕๕๐ดำเนินการบูรณมณฑปประดิษฐานรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาส โดย เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคา ทำฝ้าหลังคา เปลี่ยนกระจกสีที่ประดับหน้าบัน ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และทาสี พ.ศ.๒๕๕๑ดำเนินการก่อสร้างศาลารับรองสงฆ์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้ประชาชนได้สักการบูชา ตลอดจนใช้เป็นสถานที่ประชุมและต้อนรับคณะสงฆ์เนื่องในโอกาสต่าง ๆ ลักษณะเป็นอาคารทรงไทยโครงสร้างทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลัง ภายในบุด้วยไม้สักและไม้อัดสักทั้งหลัง ขนาดกว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๑.๕๐ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๑ดำเนินการวาดภาพจิตรกรรมฝาพนังภายในอุโบสถ พ.ศ.๒๕๕๑ดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานวัดบ้านแพน ลักษณะเป็นอาคารทรงไทยคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๖ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๒ดำเนินการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ ลักษณะอาคารพื้นและเสาเทด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาโครงเหล็กมุงด้วยแผ่นอลูซิงค์ หนา ๐.๐๕ มิลลิเมตร ด้านข้างติดตั้งสแตนเลสทั้งหลัง ขนาดกว้าง ๗.๕๘ เมตร ยาว ๑๕.๖๓ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๒ดำเนินการปิดทอง พระพิชิตมารโมลีโลก และ หลวงพ่อเพชร พระประธานภายในอุโบสถ พร้อมพระอัครสาวก พ.ศ. ๒๕๕๒ดำเนินการก่อสร้างซุ้มประตูทางเข้าอุโบสถ ๔ ซุ้ม พร้อมด้วยกำแพงแก้วรอบอุโบสถ พ.ศ. ๒๕๕๓ดำเนินการเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก รอบอุโบสถ พ.ศ. ๒๕๕๓ได้รับงบประมาณสร้างเตาเผาศพแบบปลอดมลพิษ จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญ โดยทำการรื้อของเดิมลง และก่อสร้างใหม่บนพื้นที่เดิม ให้สูงพ้นระดับน้ำที่เข้าท่วมทุกปี พ.ศ. ๒๕๕๕ดำเนินการบูรณกุฎีสงฆ์ โดยดำเนินการดีดเสายกกุฎิให้สูงขึ้น จากของเดิม ๑.๕๐ เมตร เพื่อให้พ้นจากระดับน้ำที่เข้าท่วม เป็นประจำทุกปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดบ้านแพน ขนาดกว้าง ๒๑ เมตร ยาว ๓๐ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๕ ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ แทนหลังเดิมที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ขนาดกว้าง ๒๐.๕๐ เมตร ยาว ๒๘ เมตร พร้อมดีดเสายกศาลาด้านหน้า จำนวน ๑ หลัง ขนาดกว้าง ๗ เมตร ยาว ๒๘ เมตร ศาลาด้านข้าง จำนวน ๔ หลัง ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๑๐ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๕ ดำเนินการบูรณกุฏิสงฆ์วัดบ้านแพน จำนวน ๘ หลัง ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๒๙ เมตร จำนวน ๒ หลัง ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๑๖.๗๐ เมตร จำนวน ๒ หลัง และขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๒ เมตร จำนวน ๔ หลัง โดยดำเนินการดีดเสายกกุฎิให้สูงจากเดิม ๑.๒๐ เมตร พร้อมทาสี พ.ศ. ๒๕๕๖ ดำเนินการบูรณซ่อมแซมกุฎิทรงไทย ๒ ชั้น ขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๕ เมตร โดยดีดเสายกกุฎิให้สูงขึ้นจากเดิมอีก ๑.๒๐ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๗ ดำเนินการสร้างรูปหล่อพระมหากัจจายนะเถระ ขนาดหน้าตัก ๓ เมตร หล่อด้วยทองเหลืองทั้งองค์ พร้อมสร้างวิหารครอบ ลักษณะเป็นอาคารศิลปะแบบจีน กว้าง ๕ เมตร ยาว ๕ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๗ ดำเนินการก่อสร้างกุฎิสงฆ์ จำนวน ๑ หลัง ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๑๔ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๘ ดำเนินการสร้างวิหารบุรพาจารย์ ขนาดกว้าง ๘.๙๐ เมตร ลึก ๙.๕๐ เมตร เป็นอาคารศิลปะแบบจีน พ.ศ. ๒๕๕๘ ดำเนินการบูรณซ่อมแซมกุฎิสามัคคีวัฒนา ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๖.๗๐ เมตร โดยเดินระบบไฟฟ้า อัดพื้น และทาสีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๘ ดำเนินการบูรณซ่อมแซมศาลาเนกขัมมะ ขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๔ เมตร พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการก่อสร้างมณฑปพระสีวลี ขนาดกว้าง ๕ เมตร ลึก ๕ เมตร พร้อมสร้างรูปจำลองพระสีวลีเถระ หล่อด้วยทองเหลือง จำนวน ๑ องค์ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการปรับปรุงห้องเรียน ชั้นล่าง โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดบ้านแพน เป็นห้องประชุมเอนกประสงค์ กว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๓๐ เมตร พร้อมติดตั้งระบบเสียง ระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการบูรณ สำนักงานวัดบ้านแพน (กุฎิมหาชัยพงศ์กุล) ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๖ เมตร โดยดำเนินการทาสีอาคารภายนอกใหม่ทั้งหลัง พ.ศ. ๒๕๖๐ดำเนินการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๓๐ เมตร ให้กับศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดบ้านแพน เพื่อใช้เป็นห้องจัดประสบการณ์เรียนรู้ โดยได้จัดซื้อเครื่องเล่นสนาม ๑ ชุด พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ พ.ศ. ๒๕๖๐ดำเนินการปิดทอง ปิดกระจก ฐานชุกชีพระประธานภายในอุโบสถ พ.ศ. ๒๕๖๑ดำเนินการเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กโดยรอบวิหารบุรพาจารย์ (เก๋งจีน) พื้นที่ ๙๖๗ ตารางเมตร พ.ศ. ๒๕๖๑ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญหลังด้านใน ขนาดกว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร โดยดำเนินการกุผนังด้วยไม้สัก และไม้อัดสักทั้งหลัง พร้อมติดตั้งโคมไฟฟ้า และติดตั้งระบบเสียงศาลาการเปรียญใหม่ทั้งหลัง พ.ศ. ๒๕๖๑ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลารับรองสงฆ์ ขนาดกว้าง ๑๗.๘๐ เมตร ยาว ๒๑.๕๐ เมตร โดยดำเนินการปรับพื้นไม้ทาสี ปรับปรุงห้องรับรองพร้อมห้องน้ำ ทาสีผนังด้านในทั้งหลัง ต่ออาสนะสงฆ์ ติดตั้งโคมไฟฟ้า ติดตั้งระบบเสียง ม่านประตูและม่านหน้าต่าง พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จำนวน ๙ เครื่อง พ.ศ. ๒๕๖๑ดำเนินการก่อสร้างฌาปนสถานหลังใหม่ ขนาดกว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตร พร้อมเตาเผาศพแบบปลอดมลพิษ สมัยพระครูเสนาคุณวัฒน์ (สมพิษ ปมุตฺโต) เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. ๒๕๖๒ดำเนินการก่อสร้างฌาปนสถานต่อจากพระมงคลวุฒาจารย์ (ทองพูน ฐิตสีโล) ซึ่งยังดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ขนาดกว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตร พร้อมเตาเผาศพ แบบปลอดมลพิษ พ.ศ. ๒๕๖๒ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์มณฑปประดิษฐานรูปจำลองอดีต เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน เป็นอาคารตรีมุข ขนาดกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๑๕ เมตร โดยดำเนินการกรุผนังด้านในด้วยไม้สักและไม้อัดสักทั้งหลัง ซ่อมฝ้า ติดตั้งโคมไฟฟ้า พร้อมทาสีภายนอก พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์โรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยทาสีผนังภายในอาคาร พื้นที่ ๒,๑๐๐ ตร.ม. ทาสีผนังภายนอกอาคาร พื้นที่ ๒,๔๕๐ ตร.ม. ติดตั้งไม้เชิงชายไฟเบอร์ซีเมนต์ ขนาดกว้าง ๖ “ หนา ๑๖ มม. จำนวน ๒๑๐ ม. งานทาสีไม้เชิงชาย พื้นที่ ๕๓ ตร.ม. และงานทาสีเชิงชาย ค.ศ.ล. พื้นที่ ๒๕๐ ตร.ม. พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหน้าศาลาการเปรียญ ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๙ เมตร โดยดำเนินการเปลี่ยนฝ้าเป็นไม้สัก เปลี่ยนระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของ ศาลาการเปรียญ ขนาดกว้าง ๕.๖๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร โดยดำเนินการขัดพื้นทำสีใหม่ เปลี่ยนประตูด้านหน้าเป็นกระจก ทาสีตัวอาคารทั้งภายนอกและภายใน เปลี่ยนระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของศาลาการเปรียญ ขนาดกว้าง ๖.๓๐ เมตร ยาว ๘.๘๐ เมตร โดยดำเนินการเปลี่ยนฝ้าเป็นไม้สัก ขัดพื้นทำสีใหม่ เปลี่ยนประตูด้านหน้าเป็นกระจก ทาสีตัวอาคารทั้งภายนอกและภายใน เปลี่ยนระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาธรรมสังเวช ขนาดกว้าง ๑๔.๖๐ เมตร ยาว ๒๐.๘๐ เมตร โดยดำเนินการทาสีอาคารทั้งภายในและภายนอกใหม่ทั้งหลัง เปลี่ยนระบบส่องสว่าง เปลี่ยนระบบเสียง พร้อมปูพื้นกระเบื้องด้านหน้า พื้นที่ ๑๐๐ ตารางเมตร พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการสร้างห้องเก็บของบริเวณชั้นล่างศาลารับรองสงฆ์ ขนาดกว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๑.๕๐ เมตร โดยภายในก่อผนังกั้นเป็นห้องสำหรับเก็บของจำนวน ๕ ห้อง ปูพื้นกระเบื้อง พื้นที่ ๓๘๗ ตารางเมตร ทาสีทาสีภายในและภายนอก พร้อมจัดทำระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณกุฎิสงฆ์ทางด้านทิศใต้ จำนวน ๕ ห้อง ขนาดกว้างห้องละ ๓ เมตร ยาว ๔ เมตร โดยดำเนินการขัดล้างทาสีพื้นและผนังภายใน เปลี่ยนพัดลม และระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณห้องน้ำสำหรับพระสงฆ์ จำนวน ๖ ห้อง ขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๒.๓๐ เมตร โดยดำเนินการตีฝ้าหลังคา เปลี่ยนพื้นกระเบื้องและสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ทาสีผนังภายในและภายนอก พร้อมเดินระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๓ดำเนินการบูรณศาลาทางเดินเท้าจากกุฎิมาอุโบสถ ขนาดกว้างห้องละ ๓ เมตร ยาว ๓๐ เมตร โดยเปลี่ยนหลังคาเป็น โครงเหล็ก มุงหลังคาด้วยเมทัลชีท ทาสี และเดินระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาคุณูปการ ขนาดกว้าง ๑๘.๕๐ เมตร ยาว ๒๔.๘๐ เมตร โดยดำเนินการรื้อพื้นคอนกรีตของเดิมออกแล้วตอกเสาเข็ม เทคานและเทพื้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กใหม่ ตีฝ้าหลังคา กั้นห้องสำหรับเป็นห้องประชุม ๑ ห้อง ห้องครัว ๒ ห้อง ห้องเก็บพัสดุ ๓ ห้อง ห้องน้ำ ๑ ห้อง พร้อมปูพื้นกระเบื้อง พื้นที่ ๔๗๐ ตารางเมตร เปลี่ยนระบบไฟฟ้าส่องสว่าง และติดตั้งระบบเสียง พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการสร้างต่อเติมหลังคาเชื่อมต่อระหว่างศาลาธรรมสังเวช ศาลาเมตตาธรรม และศาลาคุณูปการ ขนาดกว้าง ๑๑.๘๐ เมตร ลึก ๑๑.๕๐ เมตร โดยดำเนินการตอกเสาเข็ม เทคานและพื้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูพื้นกระเบื้อง พื้นที่ ๑๓๖ ตารางเมตร จัดทำหลังคาโครงเหล็กมุงด้วยกระเบื้องเมทัลชีท ทาสี และ เดินระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณห้องน้ำด้านหลังศาลาธรรมสังเวช ขนาดกว้าง ๕.๓๐ เมตร ยาว ๖.๒๐ เมตร จำนวน ๘ ห้อง โดยดำเนินการ ตีฝ้าหลังคา ปูพื้นกระเบื้องและเปลี่ยนสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ทาสีผนังภายในและภายนอก พร้อมจัดทำระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณห้องน้ำด้านหลังศาลาการเปรียญ ขนาดกว้าง ๗.๘๐ เมตร ยาว ๘.๔๐ เมตร จำนวน ๘ ห้อง โดยดำเนินการจัดทำทางขึ้น-ลงใหม่ ตีฝ้าหลังคา ปูพื้นกระเบื้อง พื้นที่ ๖๕ ตารางเมตร เปลี่ยนสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ทาสีผนังภายในและภายนอก พร้อมจัดทำระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการจัดสร้างป้ายชื่อวัด ขนาดกว้าง ๑.๕๐ เมตร ยาว ๕.๕๐ เมตร สูง ๓.๕๐ เมตร พื้นป้ายเป็นหินแกรนิตสีดำ พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณศาลาเมตตาธรรม (ศาลาบำเพ็ญกุศล) ขนาดกว้าง ๑๔.๕๐ เมตร ยาว ๒๕.๓๐ เมตร โดยดำเนินการทาสีอาคารภายในและภายนอกใหม่ทั้งหลัง ปูพื้นภายในด้วยกระเบื้องยาง ลายไม้ พื้นที่ ๓๖๕ ตารางเมตร เปลี่ยนระบบไฟฟ้าส่องสว่าง เปลี่ยนระบบเครื่องเสียง ติดตั้งม่านประตูและหน้าต่าง พร้อมดำเนินการบูรณระเบียงด้านหน้าศาลา ขนาดกว้าง ๕.๔๐ เมตร ยาว ๒๕.๓๐ เมตร โดยดำเนินการเปลี่ยนกระเบื้องเป็นเมทัลชีท ตีฝ้าหลังคา เทพื้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูพื้นกระเบื้อง พื้นที่ ๑๓๕ ตารางเมตร พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้าส่งสว่างและพัดลม พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญหลังหน้า ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๙ เมตร โดยดำเนินการเปลี่ยนฝ้าเป็นไม้สัก ขัดพื้นและทาสีใหม่ เปลี่ยนไฟฟ้าส่องสว่าง จัดทำหลังคากัดสาดคลุมบันได้ทางขึ้น พร้อมติดตั้งราวจับด้วยสแตนเลส พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์พื้นเชื่อมต่อระหว่างศาลาการเปรียญ ขนาดกว้าง ๕.๕๐ เมตร ยาว ๒๐.๕๐ เมตร โดยดำเนินการเปลี่ยนไม้ระแนงพื้น เปลี่ยนพื้นและทำสีใหม่ เปลี่ยนไฟฟ้าส่องสว่าง พร้อมทำลูกรงสแตนเลส พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการจัดสร้างรูปจำลองพระอุปัชฌาย์ศรี เจ้าอาวาส รูปที่ ๓ หล่อด้วยทองเหลือง ขนาด ๒๙ นิ้ว และรูปจำลองแบบยืน พระมงคลวุฒาจารย์ (หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล) เจ้าอาวาสรูปที่ ๗ หล่อด้วยทองเหลือง สูง ๒.๔๙ เมตร พร้อมรูปหล่องานปั้นประติมากรรมเด็กไทย “ไอ้ตัวเล็ก” ขนาด ๑๖ นิ้ว พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์กำแพงวัด สูง ๒ เมตร ยาว ๕๒ เมตร โดยดำเนินการขัดล้างและทาสีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๔ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์หอกลอง-หอระฆัง ขนาดกว้าง ๔.๖๐ เมตร ยาว ๔.๖๐ เมตร สูง ๑๔ เมตร โดยดำเนินการขัดล้าง และทาสีใหม่ทั้งหลัง พ.ศ. ๒๕๖๕- ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ภายในโดมเอนกประสงค์ ขนาดความกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๕ เมตร ซึ่งโดมเอนกประสงค์ได้รับงบประมาณอุดหนุนการก่อสร้างจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๖๕ - ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์กำแพงวัด สูง ๒ เมตร ยาว ๔๙๖.๕ เมตร คิดเป็นพื้นที่ ๑,๗๙๑ ตารางเมตร พร้อมซุ้มประตู ๓ ซุ้ม โดยดำเนินการขัดล้างทาสีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕- ดำเนินการปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในอุโบสถ ดำเนินการเดินสายเมนไฟฟ้าใหม่ เปลี่ยนหลอดไฟส่องสว่าง พร้อมติดตั้งประตูกระจกนิรภัย พ.ศ. ๒๕๖๖- ดำเนินการติดตั้งเสาไฟฟ้าโซล่าเซลล์ส่องสว่างภายในบริเวณวัด เสาเหล็กขนาด ๓ นิ้ว สูง ๔ เมตร หลอดไฟ ufo ขนาด ๒๐๐,๐๐๐ วัตต์ จำนวน ๔๐ ต้น พร้อมไฟถนน ขนาด ๑๐,๐๐๐ วัตต์ จำนวน ๘ ชุด พ.ศ. ๒๕๖๖- ดำเนินการติดตั้งพัดลมเพดาน Jumbo Fan ใบพัดขนาด ๗.๓ เมตร กำลังมอเตอร์ 1.5/2.0 กิโลวัตต์ ภายในโดมอเนกประสงค์ จำนวน ๑ เครื่อง พ.ศ. ๒๕๖๖ – ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์บริเวณรอบอุโบสถ โดยดำเนินการซ่อมแซมรอยแตกร้าวและทาสีเจดีย์ กำแพงแก้ว ซุ้มประตู ซุ้มพระสังกัจจายน์ เสาไฟฟ้า และซุ้มเสมา พื้นที่ ๑,๒๖๘ ตารางเมตร

ลำดับเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน

Screen Shot 2566-07-11 at 12.39.27.png

ติดต่อวัดบ้านแพน

สถานที่ตั้ง: เลขที่ 125 หมู่ 1 ตำบลสามกอ อำเภอเสนา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เบอร์ติดต่อ: ๐๘ ๖๕๐๕ ๕๘๓๘ - ศาลารับรองสงฆ์

                   ๐๙ ๔๙๖๒ ๙๙๖๒ - สำนักงานวัด

                   ๐๙ ๙๑๐๑ ๓๑๒๓ - ศาลาวัตถุมงคล

เวลาเปิดทำการ: 06.00 - 18.00น.

©2023 by วัดบ้านแพน Wat Ban Phaen. Powered by Dryv Technology

bottom of page